... ...
... ...

Saturday, June 27, 2015

‘บิ๊กตู่’แนะเลี้ยงจิ้งหรีด ปลูกถั่ว ปลูกผัก แทนปลูกข้าวสู้ภัยแล้ง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อคืนวันที่ 26 มิถุนายน ถึงการแก้ปัญหาภัยแล้ง ว่า “ในส่วนของเกษตรกรนั้นวันนี้ก็น้ำแล้ง ตนจึงให้มีการปรับการปลูกพืชให้สอดคล้องกับสภาพอากาศและก็พื้นที่ วันนี้ฝนตกฝนน้อยไม่เท่ากัน ระบบการส่งน้ำของชลประทานส่งได้ไม่เพียงพอ น้ำต้นทุนไม่มี ท่านก็ต้องเปลี่ยนไปปลูกพืชน้ำน้อย มีหลายพื้นที่ ผมเห็นเลี้ยงจิ้งหรีด และก็มีการ ปลูกถั่ว ปลูกผัก ปลูกอะไรเยอะแยะไปหมด แล้วก็มีรายได้ดีกว่าปลูกข้าวด้วยซ้ำไป เพราะบางทีมันปลูกข้าวแล้วมันก็ตาย ใช่ไหม พอน้ำมันขาด ตอนจะออกรวงก็ไม่ออก ไม่มีน้ำ มันก็ไม่ออก ก็แห้งตาย มันก็เป็นอย่างนี้ทุกปี แล้วเสร็จแล้วก็ต้องเยียวยา ช่วยเหลือ ท่านต้องปรับเปลี่ยนตัวเองด้วย”






นอกจากนี้กล่าวว่า “ถ้าท่านรู้ว่าท่านทำต่อไปแล้วเป็นหนี้เป็นสินเยอะๆ ท่านก็ต้องมาหาความรู้ เราไม่สามารถจะไปเดินบอกทุกบ้านได้ ทุกครอบครัวได้ ท่านต้องฟัง นี่คือสิ่งที่องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น จะต้องเข้าในนโยบายของรัฐบาล แล้วก็นำไปบอกเล่ากัน ในการประชุมประจำเดือนของแต่ละตำบลแต่ละหมู่บ้าน หน้าที่ของกำนันผู้ใหญ่บ้าน หน้าที่ของสมาชิกต่างๆ อปท.เป็นผู้ที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด ถ้าท่านไม่มีความรู้ ถ้าท่านไม่เอาสิ่งที่เป็นนโยบาย กำลังถ่ายทอดอยู่นี้ กำลังทำอยู่นี่ ไปสู่การปฏิบัติให้ได้ สร้างความเข้าใจประชาชนไม่ได้ ก็จะเกิดปัญหาอยู่แบบนี้ วันหน้าความเดือดร้อนก็กลับมาใหม่อีก แล้วเกิดปัญหาความขัดแย้ง ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรมมาตลอด ขอความกรุณา ผมขอตรงนี้ ก็คงจะต้องร่วมมือกันต่อไป อย่าไปขัดแย้งกันอีกเลย เรื่องน้ำ การปล่อยน้ำ นี่ไม่ใช่ต้องให้ทหารไปดูทุกเรื่อง มันดูเหมือนต้องใช้อำนาจตลอดเลยในการทำงานไม่ได้ ก็ต้องช่วยกัน”



สำหรับ การจัดระเบียบในพื้นที่กรุงเทพฯ เมืองใหญ่ต่างๆ และชนบท ว่า “เราต้องสร้างชุมชนเมืองให้ได้ในเขตชนบท เพราะว่าถ้าเรากระจายกันมากๆ การลงทุนด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ เหล่านั้นลงทุนสูง ถ้าเรามารวมกัน แล้วในพื้นที่ไร่นาต่างๆก็ห่างไปเล็กน้อย พอที่จะเดินไปก็ได้ หรือจะไปด้วยรถอีแต็ก อีแต๊น ไม่ใช่ไปเป็น 20-30 กิโลเมตร ถ้าเราสร้างชุมชนในชนบทได้ เราก็จะลดภาระในเรื่องของสาธารณูปโภคพื้นฐานได้มากพอสมควร จากนั้นก็ไปสู่ไร่นา เราจะได้มีเงินที่จะพัฒนาในเรื่องของการใช้เครื่องไม่เครื่องมือสร้างความทันสมัยในการผลิต อย่างไร เพราะทุกวันนี้พี่น้องชาวนาก็อายุเยอะแล้ว ลูกหลานส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้ทำ ส่วนใหญ่ก็จะจ้างคนทำบ้าง หรือใช้จ้างเครื่องไม้เครื่องมือมาบ้าง ก็ต้นทุนก็สูง วันนี้เราดูแลเรื่องต้นทุนด้วย จะเห็นว่ามีการลดราคาปุ๋ย เมล็ดพันธ์ แล้วก็ในเรื่องของการที่จะจัดหาเครื่องไม่เครื่องมือเป็นส่วนรวม เพื่อให้สหกรณ์ได้เข้าไปใช้ บางส่วนก็ให้ทหารเข้าไปดูแล อันนี้ก็กำลังอยู่ในขั้นตอนนี้ กำลังจะเร่งให้เร็วที่สุด”

ทั้งนี้กล่าวถึงราคาการเช่าที่ดิน ว่า “ขอร้องบรรดาเจ้าของที่ดิน อย่าไปเรียกร้องมากนักเลย กับชาวไร่ชาวนาวันนี้ เพราะน่าสงสารน่าเห็นใจเขา ถ้าไม่มีเขา ท่านก็ไม่มีรายได้ ถ้าท่านต้องการมีรายได้ ท่านก็ต้องร่วมไม้ร่วมมือกัน ดูแลเขา สร้างบุญ สร้างกุศลต่อ”

ที่มา:http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1435325162


0 comments:

Post a Comment

Twitter Delicious Facebook Digg Favorites More